แพะเมืองผี
ที่ตั้งและแผนที่
ตั้งอยู่ระหว่างตำบลทุ่งโฮ้ง
และตำบลน้ำชำ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ห่างจากตัวเมืองราว 15 กิโลเมตร
บนเส้นทางสายแพร่ – ร้องกวาง
แยกตรงกิโลเมตรที่ 9 เข้าไปอีก 6 กิโลเมตร ตำบลน้ำชำ ใช้เส้นทางหลวงสายแพร่ - น่าน
ทางหลวงหมายเลข 101 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก 6 กิโลเมตร
แพะเมืองผีอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ เกิดจากสภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นดิน
และหินทรายถูกกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ เช่น ดอกเห็ด หน้าผา
ดูแล้วแปลกตา ชื่อ แพะเมืองผี น่าจะมาจากภาษาพื้นเมืองแพะ แปลว่า ป่าละเมาะ
ส่วนคำว่า เมืองผี แปลว่า เงียบเหงา
วังเวงอาจเกิดจากสภาพภูมิประเทศที่ดูเร้นลับน่ากลัว
สถานที่แห่งนี้ประกาศเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2524
ลักษณะภูมิประเทศ
วนอุทยานแพะเมืองผีมีสภาพเป็นป่าบนที่ราบลอนคลื่น
สภาพสูงๆ ต่ำๆ ไม่สม่ำเสมอ มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ
สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 180-210 เมตร
จะมีเสาดินรูปร่างประหลาดเกิดจากกระบวนการกระทำของน้ำไหลและชะชั้นดินที่มีความแข็งไม่เท่ากัน
นักธรณีวิทยาประมาณ ค่าอายุของดินแห่งนี้ว่าอยู่ในยุค Quaternary ซึ่งเป็นยุคค่อนข้างใหม่ มีอายุตั้งแต่ 15 ล้านปี
จนถึงปัจจุบัน ลักษณะการเกิดของเสาดินเกิดจากหินเซมิคอนโซลิเดเตด (Semiconsolidatged)
คือ หินที่ยังแข็งตัวไม่เต็มที่ประกอบด้วยชั้นดินทราย (Siltstone)
ชั้นหินทราย (Sandstone) สลับกันเป็นชั้น ๆ
แต่ละชั้นมีความต้านทานต่อการผุพังไม่เท่ากัน
เมื่อถูกน้ำฝนชะซึมสู่ชั้นหินที่มีความต้านทานต่อการผุพังน้อยกว่า (Less-resistant
bed) ก็จะถูกกร่อนโดยง่ายเหลือชั้นที่มีความต้านทานต่อการผุพังมากกว่า
(More-resistant bed) ทำหน้าที่เสมือนแผ่นเกราะวางอยู่ข้างบน
เรียกว่า แค๊ป (Cap) ทำให้น้ำไม่สามารถชะกร่อนต่อไปได้ง่าย
ส่วนที่เหลือให้เห็นอยู่โดยการเกิดลักษณะนี้ จึงมีรูปร่างเป็นหย่อมแตกต่างกัน
สภาพอากาศ
บริเวณพื้นที่วนอุทยานแพะเมืองผี
แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม -
กุมภาพันธ์
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม - พฤษภาคม
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน -
กันยายน
ต้นดิกเดียม
ต้นดิกเดียมนอกจากจะเป็นต้นไม้มหัศจรรย์ดิ้นได้แล้ว
ก็ยังมีคุณประโยชน์ด้วยอีกต่างหาก ซึ่งดอกสามารถช่วยฆ่าพยาธิ
ใบเอามาขยี้ทาแก้กลากเกลื้อน น้ำมันในเมล็ดนำมาทาแก้แผลมะเร็ง โรคเรื้อน
รากช่วยแก้เสมหะเป็นพิษ แก้อาการอาหารไม่ย่อยในเด็ก เปลือกช่วยแก้ริดสีดวง
และใบก็นำมาตำพอกรักษาแผลสด และไม้จากต้นดิกเดียมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน
เครื่องกลึง แกะสลัก หวี กระสวยได้ ความน่ามหัศจรรย์ของต้นดิกเดียมดิ้นได้นี้
ไม่ได้มีให้เห็นเฉพาะที่เสาดินนาน้อยแห่งนี้เท่านั้น
เพราะยังมีต้นดิกเดียมให้ชมอีกหลายที่ อย่างเช่นที่วัดปรางค์ อ.ปัว จ.น่าน
ด้านหน้าวิหารก็มีต้นดิกเดียมที่เป็นอันซีนให้ได้ชมกัน หรือที่วนอุทยานแพะเมืองผี
อ. เมือง จ.แพร่ เป็นต้น
พืชพรรณและสัตว์ป่า
เป็นป่าเต็งรัง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่
ยางเหียง พะยอม งิ้ว เปล้า สะแก ไผ่ไร่ และป่าที่ปลูกเพิ่มเติม ได้แก่ กระถินณรงค์
กัลปพฤกษ์ หางนกยูง สัตว์ป่าที่พบได้แก่
งู กิ้งก่า แย้ กระต่ายป่า และนกชนิดต่าง ๆ
ประวัติความเป็นมา
แพะเมืองผี
เป็นพื้นที่เนินเขาซึ่งสูงกว่าส่วนอื่น เกิดจากการพังทลายโดยการกัดเซาะตามธรรมชาติ
โดยกระแสน้ำเป็นเวลานาน ทำให้พื้นที่บางส่วนเป็นที่สูงต่ำสลับกันไป
หน้าผาและเสาดินมีรูปทรงแตกต่างกัน ก่อให้เกิดความสวยงามมากยิ่งขึ้น แพะเมืองผี ตั้งอยู่ระหว่างตำบลทุ่งโฮ้ง
และตำบลน้ำชำ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ห่างจากตัวเมืองราว 15 กิโลเมตร บนเส้นทางสายแพร่ – ร้องกวาง
แยกตรงกิโลเมตรที่ 9 เข้าไปอีก 6
กิโลเมตร โดยสถานที่ตั้งของแพเมืองผีมีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน
ในสมัยโบราณเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านตำบลทุ่งโฮ้ง และใกล้เคียงให้ความนับถือมาก
เพราะมีประวัติความเป็นมาที่ลึกลับโดยคนโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า มียายแก่เข้าไปเที่ยวในป่าหาผักหน่อไม้มาเป็นอาหาร
ได้หลงไปในที่แห่งนี้แล้วพบหลุมเงินหลุมทองจึงเอาเงินเอาทองใส่หาบจนเต็มแล้วยกใส่บ่าเพื่อจะหาบกลับบ้านแต่ก็หลงไปหลงมาในป่าแห่งนั้น
เพราะเทวดาเจ้าถิ่นนั้นไม่ให้เอาไป เพียงแต่เอามาอวดให้เห็น
ยายผู้นั้นจึงหาหนทางเอาหาบนั้นกลับบ้านไม่ได้
จึงได้วางหาบนั้นไว้แล้วจัดแจงตัดไม้มาคาดทำเป็นราว
แต่ก็ยังไม่สามารถนำหาบเงินหาบทองนั้นออกมาได้สักที
ยิ่งยกเท้าไปข้างหน้าก็ยิ่งเหมือนยกถอยหลังไปอีกเหมือนหนึ่งว่ามีคนดึงหาบนั้นไว้
ยายแก่จึงวางหาบไว้ที่นั่นแล้วรีบไปบอกชาวบ้านให้มาดูหาบเงินหาบทองนั้น
พอชาวบ้านหลั่งไหลไปเป็นจำนวนมาก ครั้นเมื่อไปถึงเงินทองนั้นกลับหายไปตามป่านั้น
เมื่อพบรอยเท้าจึงสะกดจามรอยเท้าไปจนถึงเสาเมโร และไม่มีรอยปรากฏไปทางอื่นเลย
ยายแก่กับชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า “แพะเมืองผี”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น